๑. ปัญหาสำหรับ คู่สามีภรรยา ในการเลี้ยงลูก
-การควบคุมนิสัยอารมณ์โกรธ
โมโห ความรุนแรง เผด็จการ สั่งอย่างเดียว(EQ)
-ความสัมพันธ์กับ
ลูก (FAMILY RELATIONSHIP)
-เลี้ยงลูกด้วย
ทุกขทัศนนิยม หรือ ความคิดเชิงลบ (NEGATIVE
THINKING)
-คุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
โดยแสดง อาการบ่น หงุดหงิด อารมณ์โกรธ แก่ลูก
-การเลี้ยงลูก
ด้วย ความรัก คือ ตามใจ และ ให้เกือบทุกอย่าง
-การเลี้ยงลูก
แบบคนรวย ด้วยการให้เงิน ซื้อของให้
-การเลี้ยงลูก ด้วย วัตถุนิยม เช่น
เลี้ยงด้วยการให้ลูกเล่นคอมพิวเตอร์ แท๊ปเลต หรือ โทรศัพท์ มากเกินไป
-การเลี้ยงลูก
โดยทำให้ลูกทุกอย่าง จนลูกขาดความเชื่อมั่น ทำอะไรไม่เป็น ขาดความกล้า
ไม่กล้าพูดคุยกับคนอื่น ขาดมนุษย์สัมพันธ์
-วิธีการแก้ไขปัญหาของลูก
-สอนลูก
ด้วยการใช้อารมณ์เป็นหลัก ขาดการให้เหตุผล
-ชอบกิน/ดื่ม อาหารขยะ และ กิน/ดื่ม อาหารสุขภาพไม่เป็น
๒. สาเหตุของปัญหา
-การพัฒนาสติ
และ ปัญญา
-การฝึกฝนปฏิบัติที่จิตใจ
-ความรู้ด้านจิตใจ
และอารมณ์
-ความรู้ด้านจิตวิทยาในการเลี้ยงลูก
-ความรู้เรื่องการให้คำแนะนำ
-ความรู้เรื่องการสอน
ด้วย เหตุ และ ผล
-ความคิดเชิงลบ
-ขาดการสร้างความคิดเชิงบวก
-การให้ น้อยกว่า การรับ
-การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในบ้าน
-ปัญหาของผู้ปกครอง
ด้านเศรษฐกิจ ครอบครัว และสังคม
-ความรู้ในการดูแลสุขภาพใจ
และกาย
-พฤติกรรมที่ไม่ดีของพ่อแม่
-ขาดความอบอุ่นในบ้าน
ทำให้ลูกไม่อยากอยู่บ้าน
๓. เป้าหมายในการแก้ปัญหา
-สร้างลูกให้เป็นคนดี
-ให้รู้จักความสุข และความทุกข์
-ให้รู้จัก เหตุ และ ผล
-ให้รู้จักคิดลบ และคิดบวกเป็น
-สอนลูกให้มีความกล้า และเชื่อมั่น
-ดูแลช่วยเหลือตัวเองเป็น
-รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น
-การเป็นผู้ให้ (GIVER, NOT TAKER) และสร้างคุณค่าให้กับชีวิต
-ให้สร้างประโยชน์กับทุกฝ่าย ด้วยหลัก WIN-WIN ไม่ใช่ ZERO SUM GAME
-ให้รู้จักใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่น เช่น ฟังเป็น (การจับประเด็นในการฟัง)
พูดเป็น(มีลำดับและรายละเอียด) และ
ถามคำถามเป็นมีใจความสื่อสิ่งที่ต้องการได้
-ให้รู้จักบริหารเวลาเป็น
-ให้รู้จักวางแผนในอนาคตเป็น
-มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก
-ยับยั้งอารมณ์ และเอาชนะใจตนเองเป็น
-แก้ปัญหาเป็น และอยู่ได้กับทุกปัญหา
-ฝึกฝนจิตให้เกิดความพอเพียง
-ค้นหาความรู้ด้วยตนเอง และการดำรงชีวิตตลอดไป
-มีความสุข ด้านจิตใจ และรู้จักดูแลสุขภาพ/ร่างกาย
-ให้มีความรู้ใน พระพุทธศาสนา และ จิตวิทยาเชิงบวก
-สอนหลักพรหมวิหาร 4 และหลักธรรมอื่นๆ ในการดำรงชีวิต
-สร้างสติ และปัญญาด้านจิตวิญญาณ
-ทำประโยชน์ต่อ ตนเอง ครอบครัว และสังคม
-เตรียมสะสม
อริยทรัพย์ภายใน และบุญกุศล เพื่ออนาคตในชาติต่อไป
๔. วิธีการปฏิบัติเพื่อนำสู่เป้าหมาย
๔.๑ ฝึกฝนด้านทฤษฎี
-หลักพุทธธรรม
-หลักไตรสิกขา และ ทาน ศีล ภาวนา
-หลักสติปัฎฐาน
เพื่อนำสู่ภาคปฏิบัติจริง (VIPASSANA MINDFULNESS MEDITATION)
-ความหมาย
ประโยชน์ และวิธีฝึก การเจริญสติ (MINDFULNESS MEDITATION)
-การพัฒนาปัญญาเพื่อพัฒนาจิตตนเอง
(WISDOM & ENLIGHTMENT DEVELOPMENT)
-ความสุข 3 ประเภทของ พุทธศาสนา
-การทำงานของจิต, เรียนรู้อารมณ์ต่างๆ และวิธีบริหารจัดการจิต/อารมณ์
-เรื่องวัฏฏสงสาร
การเวียนว่ายตายเกิด และชาติหน้า
-การสร้างอริยทรัพย์ภายใน
-ความคิดเชิงบวก (POSITIVE
THINKING)
-หลักเหตุและผล
"เทคนิคการเลี้ยงลูก แนวจิตวิทยาเชิงบวก" คือ
ไม่ใช่คำลบ 5 คำต้องห้าม กับ ลูก เช่น
-ไม่
-อย่า
-ห้าม
-หยุด
-ต้อง
แต่ให้ใช้ การอธิบาย ด้วย เหตุ และ ผล แล้วรับฟังเรื่องของลูกให้มาก ให้เขาเล่าเรื่องราวที่ รร เพื่อน งาน
ไม่ใช่สั่ง ดุ ต่อว่า สั่ง หรือ ทำให้เขาทุกอย่างเพราะรัก ลูกจะอ่อนแอ
จากนั้นให้เขามีสิทธิคิด เลือกเอง ทำเอง เรียนรู้เอง ถ้าเขาทำผิดให้ถูกลงโทษ ให้เขารับผิดชอบเอง
แบ่งงานให้ทำในครอบครัว สอนให้เขาทำ รับผิดชอบ ตื่นเอง บริหารเวลาเป็น
"สุภาษิตจีน สำหรับการสอนลูกหลาน"
-รู้จัก จน
-รู้จัก ลำบากเป็น
-รู้จัก แก้ไข / อยู่กับ อุปสรรค ปัญหา เหตุการณ์
-สอนให้ ขยัน ทำงาน หาปัญญา ความรู้ ตลอดไป
-กระบวนการในการแก้ปัญหา
ตามหลักอริยสัจ 4 (BUDDHIST PROBLEM SOLVING)
๔.๒ ฝึกฝนด้านภาคปฏิบัติ
-ฝึกเจริญสติ
ด้วยการเดินจงกรม และนั่งสมาธิ
-ฝึกเจริญสติ
ในชีวิตประจำวัน
-รายงานผล
และส่งอารมณ์
-ฝึกสติรู้ทันความคิดลบ
-ฝึกกระตุ้นสมอง
ด้านความคิดเชิงบวก ในปัญหา
-กระทำให้ได้จริงตามที่คิด
-ฝึกกระตุ้นสมอง
ด้านการหาเหตุ(อดีต) และผล(อนาคต)
-ฝึกสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ในบ้าน
และสังคม
-ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
แก่ ตนเอง ครอบครัว และช่วยเหลือสังคม
-นำประสบการณ์ความรู้ความชำนาญที่ได้
ไปเผยแผ่แก่สังคม
-ร่วมกิจกรรมต่างๆ
กับสังคม
-พัฒนาการเลี้ยงอบรม
หลาน และลูก ให้เป็นอย่างถูกทาง ด้วยหลักสติ เหตุผล และคิดบวก
-ฝึกการเป็นผู้ให้ (Be
GIVER, Not TAKER)
-สร้างคุณค่าของชีวิต, แก่ครอบครัว และสังคม
10 steps of Mindfulness - วิธีการเจริญสติ แนวจิตวิทยาการแพทย์
1.PREPARATION เตรียมใจ เตรียมตัว
2.ATTENTION ตั้งใจรู้ว่ากำลังทำอะไร ไม่ใช่คิดวางแผน
3.FOCUS จดจ่อ ที่ ปลายจมูก หรือ จุดอารมณ์หลัก และอื่นๆ ที่ปรากฎ
4.PRESENT MOMENT สติรู้อารมณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นชัดเจนแต่ละขณะ
5.AWARENESS สติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม และรู้ในอารมณ์ที่เกิดถัดไป
6.LETGO สติรู้ปล่อยวาง รู้เฉย ปราศจากความคิด หรือ นึกเป็นภาพ
7.NON-JUDGEMENT สติรู้เฉย ปราศจากการพิจารณา/คิดตาม
8.MOMENT-TO-MOMENT FLOW สติรู้เฉย ไปเรื่อยๆ ทีละอารมณ์
9.DAILY LIFE PRACTICE ฝึกเจริญสติทุกวัน ทุกอิริยาบถ ทุกที่ ตลอดไป
10.REPORT รายงานการฝึก สอบถาม กับผู้สอนเป็นประจำ ตลอดไป
ระยะเวลาการฝึกอบรม:
ฝึกฝนทุกวันในระหว่างวัน
และฝึกปฏิบัติที่วัด ทุกเสาร์/อาทิตย์
เป็นเวลา 8 อาทิตย์ ในช่วงแรก
แล้วนำไปใช้ และฝึกปฏิบัติต่อเนื่องตลอดไป
สอนโดย อ.อณิวัชร์ เพชรนรรัตน์ โทร 097 984 9355
***กรุณาโทรนัดก่อนเดินทาง
LINE ID : aniwat5593