การปฏิบัติธรรมตามแนวของวิปัสสนากัมมัฏฐานหรือสติปัฎฐาน ๔ ของพุทธศาสนา มีประโยชน์มากในด้าน การศึกษาเพื่อเข้าถึงจิต ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาทางใจต่างๆ การฝึกจิตเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ที่สามารถช่วยบำบัด พร้อมกับทานยาคู่กัน สติปัฏฐาน ๔ ถูกนำไปประยุกต์สอนคลายเครียดตามหลักสูตร MBSR (Mindfulness Based Stress Reduction) และ MBCT (Mindfulness-based cognitive therapy) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมาก ในอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ภายใน ๕ ปีที่ผ่านมา และยังขยายต่อไปไม่หยุด โดยเน้นการบำบัดผู้ป่วย เรื่องความเครียด และยังมีประโยชน์ต่อ การพัฒนาสมอง ด้านสติ เหตุผล การตอบสนอง และยับยั้งชั่งใจ
ปัจจุบันการฝึกสติกำลังเป็นที่นิยมมาก ในอเมริกา ยุโรป อินเดีย เอเซีย และออสเตรเลีย ภายใน ๕ ปีที่ผ่านมา และแพร่หลายต่อไป อย่างไม่หยุด เช่น การเปิดศูนย์เจริญสติ - Mindfulness Center ในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ โดยเน้นการสอน เรื่องการบำบัดผู้ป่วย คลายความเครียด มีประโยชน์ต่อการกระตุ้นการทำงาน ของสมองในส่วนหน้า ที่เรียกว่า Prefrontal Cortex, การกระตุ้นสมองให้ทำงานทั้งสองฝั่ง,
ดีต่อ Hippocampus, กระตุ้นเพิ่มระดับ Serotonin และยังมีผลดี ในหลายส่วนของสมอง
เมื่อสมองส่วนดีถูกพัฒนาสร้างขึ้น การเจริญสติยังช่วยลดการทำงานของ สมองส่วนกลาง(Amygdala) ที่แสดง อารมณ์ความกลัว วิตก โกรธ เครียด กร้าวร้าว ให้ทำงานน้อยลงได้ด้วย
ประโยชน์ของสติไม่ใช่แค่คลายเครียดได้ ยังมีผลดีต่อสมอง เส้นเลือด หัวใจ และทุกระบบในร่างกาย รวมถึงการใช้ชีวิต อย่างมีผาสุขต่อ ตนเอง ครอบครัว และอาชีพ ผลที่จะเกิดขึ้นคือการช่วยพัฒนา ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม แก่สังคมการเจริญสติตามแนววิปัสสนากัมมัฏฐาน หากทำถูกวิธีจะสามารถนำจิต เข้าสู่เบื้องลึกในระดับ จิตใต้สำนึก เพื่อปรับเปลี่ยนนิสัย พฤติกรรม ความทุกข์ และอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์ เป้าหมายสูงสุดของ พุทธศาสนา สอนให้เข้าถึงความสุขสูงสุด ที่มากกว่า กามสุขทั่วไป คือ สมาธิสุข และ นิพพานสุข
สำหรับด้านปริยัติหรือการศึกษาทางทฤษฎี ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสติปัญญา และ แก่การช่วยเหลือชุมชน ยังสามารถทำได้อีกหลายด้าน เช่น การศึกษา ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค, คัมภีร์อภิธัมมัตถะสังคหะ เนื้อหาในพระไตรปิฎก และความรู้จากศาสตร์ด้านอื่น เช่น จิตวิทยา สังคม การแพทย์ ฯลฯ เป็นต้น
วัตถุประสงค์:
-เพื่อสนับสนุนวัดต่างๆ สร้าง บุคลากร และจัดตั้งแผนกปริยัติ ปฏิบัติ และเผยแผ่ ให้บริบูรณ์
-เพื่อช่วยเหลือสังคม เป็นวิทยาทาน เพราะปัจจุบันชุมชนมีปัญหากันมากทุกครัวเรือนในทุกด้าน
-เพื่อกระตุ้นในวัดต่างๆ สร้างยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีใหม่ ในการเผยแผ่ แก่ทุกวัยและทุกระดับของสังคม
-เพื่อเป็นที่ปรึกษา บรรยาย สอนปฏิบัติ และสนับสนุนหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
-เพื่อทำหน้าที่ของพุทธบริษัท ๔ ให้บริบูรณ์
๑. ปัญหาที่เกิดขึ้น
-เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ถึงปัญหา ๓ ด้าน
-ผลที่เกิดขึ้นจากปัญหา
-ผลที่จะตามมาในอนาคต ด้านกายและใจ
-ทุกขทัศนนิยม หรือ ความคิดลบ
๒. สาเหตุของปัญหา
-พื้นฐานความรู้
-การศึกษา
-การอบรมสั่งสอนจากครอบครัว
-สภาพแวดล้อม จากเพื่อน / ที่ทำงาน / อาชีพ
๓. สร้างเป้าหมาย ถึงผลที่ต้องการ
-เพื่อบรรเทา และ ลดปัญหาที่เกิดขึ้น
-เพื่อสร้าง เพิ่ม พัฒนา ปัญญา อย่างต่อเนื่องตลอดไป
-สร้าง สุขทัศนนิยม หรือ ความคิดบวก มีเหตุผล
-เพื่อเพิ่ม ความสุข ๓ ระดับ และ ลดความทุกข์
-เพื่อพัฒนา ตนเอง ครอบครัว และอาชีพ
-เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือ การตัดวัฏฏสงสาร และ เข้าถึงพระนิพพาน
๔. วิธีการรักษาโรค (ภาคทฤษฎี และ ปฏิบัติ)
๔.๑ ฝึกด้านทฤษฎี
การพัฒนาด้านทฤษฏี ด้วยการสนทนา ออกความคิดเห็น ถามคำถาม ฝึกการเรียนรู้ด้วยตนเอง ฝึกให้ติดอ่านหนังสือ ค้นคว้าด้วยตนเองให้เป็น สังเกตุการณ์ เรียนรู้จากชีวิตประจำวันในตนเอง อาชีพ ครอบครัว, ฟังสิ่งที่มีประโยชน์ ดูสิ่งที่ดีสร้างเชิงบวก จดจำ ฝึกการจับประเด็น หาเหตุในอดีตเป็น เล็งถึงผลในอนาคตเป็น คิดบวกเป็น พัฒนาโปรแกรมสมองใหม่ สร้างนิสัยของการพัฒนาตนเองตลอด หลักพุทธธรรมด้าน ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ และอื่นๆ
๔.๒ ฝึกการเจริญสติ โดยแก้ที่ต้นเหตุ คือจิต เพื่อนำไปพัฒนา ๓ ด้าน
-แก้ปัญหาที่ต้นเหตุของโรค คือ เรื่องของจิต
-ใช้วิธีรักษาจิตต้วยจิต
-ฝึกการเจริญสติ ในท่า นั่ง เดิน นอน และระหว่างวัน
-ปฏิบัติต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงก่อนหลับ
-พัฒนาการใช้ภาษาและสื่อสาร ด้วยการฝึกดังนี้:
๑. ด้านการฟัง - ฝึกจินตนาภาพ และการจับประเด็นสำคัญ
๒. ด้านการพูด - ฝึกการเล่าเรื่องด้วยจินตนาภาพ การพูด ระดับเสียง ความเร็ว การใช้ภาษาที่ถูกต้อง ใน ลำดับ และ รายละเอียด ด้วยประโยคสมบูรณ์
๓. ด้านการถาม - ฝึกการถามให้ครบประโยค และสื่อถึงประเด็นสำคัญ เพื่อข้อมูลที่มีประโยชน์
๔. ด้านการสื่อสาร - ฝึกจับรายละเอียดและประเด็นสำคัญ การจดในสมุด ไม่ทำตามที่ตนคิดไปเอง ถ้าไม่แน่ใจ ให้สื่อสารเพื่อถามอีกครั้งให้สมบูรณ์
๕. ด้านความกล้าและความมั่นใจในการพูดคุยสนทนา
๖. ด้านการออกความคิดเห็น ในเวลาที่เหมาะสม เชิงบวกและสร้างสรรค์ เนื่องจากการศึกษาส่วนใหญ่ จะสอนให้ฟังครู และทำการบ้าน เท่านั้น
-ฝึกคิดเชิงบวก
-เปลี่ยนและสร้างโปรแกรมให้สมองใหม่
-ทำให้ได้จริง อย่างต่อเนื่องตลอดหลักสูตร
สรุป องค์ความรู้ ที่จะศึกษาเพิ่มเติมในระยะเวลาต่อเนื่องอีก 9 สัปดาห์ ดังต่อไปนี้
-ชีวิต ด้านกายและใจ (ขันธ์ ๕) / การทำงานของจิต (ย่อ)
-จิตวิทยาพื้นฐาน
-ความคิด (คิดลบ และ คิดบวก)
-จิตวิทยาเชิงบวก (คิดบวก คำบวก ประโยคเชิงบวก)
-เหตุ และ ผล / กฎแห่งกรรม / การวิเคราะห์ความจริง
-ทาง 7 สาย (31 ภพภูมิ) ในชาติต่อไป
-วิธีแก้ปัญหา ๓ ด้าน (ตน ครอบครัว โรงเรียน) ด้วย หลักอริยสัจ ๔
-สติ/เหตุผล หรือ อารมณ์ ในชีวิตประจำวัน
-ความทุกข์ และความสุข
-ปัญญา ความสำเร็จ และบุญกุศล
-การบริหารจัดการเวลา
-พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)
-การเป็นผู้ให้ ช่วยเหลือ เห็นแก่ผู้อื่น และสร้างสันติสุข
-การรู้หน้าที่รับผิดชอบ
-การใช้ภาษา (การรับรู้ การถาม/ตอบ การสนทนา)
-อันตรายและกับดักของการหลงในการเจริญสติ/สมาธิ
-การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และพัฒนาตนเอง
-สนทนากลุ่ม ในแต่ละสัปดาห์
10 steps of Mindfulness - วิธีการเจริญสติ แนวจิตวิทยาการแพทย์
1.PREPARATION เตรียมใจ เตรียมตัว
2.ATTENTION ตั้งใจรู้ว่ากำลังทำอะไร ไม่ใช่คิดวางแผน
3.FOCUS จดจ่อ ที่ ปลายจมูก หรือ จุดอารมณ์หลัก และอื่นๆ ที่ปรากฎ
4.PRESENT MOMENT สติรู้อารมณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นชัดเจนแต่ละขณะ
5.AWARENESS สติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม และรู้ในอารมณ์ที่เกิดถัดไป
6.LETGO สติรู้ปล่อยวาง รู้เฉย ปราศจากความคิด หรือ นึกเป็นภาพ
7.NON-JUDGEMENT สติรู้เฉย ปราศจากการพิจารณา/คิดตาม
8.MOMENT-TO-MOMENT FLOW สติรู้เฉย ไปเรื่อยๆ ทีละอารมณ์
9.DAILY LIFE PRACTICE ฝึกเจริญสติทุกวัน ทุกอิริยาบถ ทุกที่ ตลอดไป
10.REPORT รายงานการฝึก สอบถาม กับผู้สอนเป็นประจำ ตลอดไป
-สวดมนต์ อาราธนาศีล ๕ และแผ่เมตตา ทุกวัน
-ฝึกปฏิบัติทุกวัน ใน อิริยาบถย่อยระหว่างวัน เดินจงกรม นั่งสมาธิ (ที่บ้าน ทุกวัน)
-สนทนาทุกวัน
-ฝึกปฏิบัติที่วัด ทุกอาทิตย์
๔.๔ ทำการปรับปรุง พัฒนา แก้ไข ให้ดียิ่งขึ้น
-ฝึกสอนตนเองให้ยอมรับความจริง เพื่อการแก้ไข และทำให้ดียิ่งขึ้น
-ฝึกให้เป็นคนใฝ่รู้ และหาความรู้ จากแหล่งต่างๆ ตลอดไป
เชิญฟังบรรยาย สนทนากลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ฝึกปฏิบัติการเจริญสติ รายงานผลปฏิบัติระหว่างวัน ทุกวันเสาร์/อาทิตย์ และปฏิบัติต่อด้วยตนเองทุกวัน
"การเจริญ สติเพื่อพัฒนา ตนเอง อาชีพ ครอบครัว" สอนฟรี เป็นวิทยาทาน แก่ทุกศาสนา ได้ทั้งภาษาอังกฤษ/ไทย
การฝึกปฏิบัติเบื้องต้น 2 เดือน ทุกวันเสาร์ เริ่มได้ทุกเสาร์/อาทิตย์ สอนแยกรายบุคคล แล้วนำไปฝึกต่อทุกวันที่บ้าน และ ที่ทำงาน
ณ ชั้น 2 อาคารปฏิบัติธรรม วัดลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 41 กทม
***ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 15.30 ถึง 19.30 น. (หยุดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ของทุกต้นเดือน)
สิ่งที่ต้องเตรียมมาด้วย (เสื้อขาว / กางเกงหลวมเข้ม / ถุงเท้าดำ 1 คู่ / น้ำ 1 ขวด / สมุดเล็กพกติดตัว 1 เล่ม)
โดย อ. อณิวัชร์ เพชรนรรัตน์ โทร 091 993 5593 dtac
***กรุณาโทรนัดก่อนเดินทาง
----------------------------