50 วิธี ในการพัฒนาสมองบวก สร้างความสุข และช่วยลดบรรเทา ต่อโรคซึมเศร้า
- รับการรักษาจากโรงพยาบาลด้วยการใช้ยา (การใช้ยาแม้ว่าจะเป็นการพึ่งพาช่วยเหลือที่มีประโยชน์ แต่ในอนาคตให้สร้าง แนวคิดตนพึ่งตนเอง และพัฒนาแก้ไขต้นเหตุของปัญหาที่ จิตของตน)
- เรียนรู้และเข้าใจ โรคซึมเศร้าว่า เกิดจาก การเลี้ยงดู เหตุการณ์ สิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ ในอดีต ที่ค่อยๆ สร้างความคิดลบ จนเกิดอารมณ์ซึมเศร้า
- หาที่ฝึกจิต ด้วย การเจริญสติ / ฝึกสมาธิ ทำให้เข้าใจเรื่องจิต
การทำงานของจิต อารมณ์ต่างๆ และวิธีจัดการควบคุมอารมณ์
- สร้าง ทาน / รักษาศีล / เจริญภาวนา (สติ / สมาธิ) อย่างต่อเนื่อง
- สวดมนต์
บูชาพระรัตนตรัย และ อาราธนาศีล ๕ ทุกวัน ตอนเช้า
- อธิษฐาน
แผ่เมตตา ทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
- มีสติรู้ทัน
ความคิดลบ และอารมณ์อกุศล
- สร้างกระตุ้น ความคิดบวก และมองไปข้างหน้าอนาคต (ปัญหาที่เกิด มีไว้ให้คิด แก้ วางแผน ไม่ได้มีไว้ให้เศร้า หรือ กลุ้มใจ ถ้ายิ่งแก้ปัญหาได้ ยิ่งเก่ง และได้ความรู้)
- ***เต้น
แอโรบิค 45 นาที ทุกวัน เป็นการช่วยปรับสาร Seratonin ในสมอง
- ออกไปเดินนอกบ้าน เพื่อรับแสงแดดยามเช้า
- **เดินออกกำลังกาย หรือ วิ่งออกกำลังกาย ครั้งละ 30 นาที และแกว่งแขนไปด้วย ทุกวันเท่ากับ เพิ่มสารสุขในสมอง คล้ายๆ กับการได้รับประทานยา Prozac or AntiDepression https://www.youtube.com/watch?v=DzmcmkXYrB4
- ฝึก
Brain Yoga ทุกวัน 2 ครั้งๆ ละ 5 นาที ทำต่อเนื่อง 3 เดือน (มือไขว้จับหู แล้ว ย่อลำตัว ลงหายใจเข้า ยกขึ้นหายใจ ออก) และอีกหลายวิธีบริหาร https://www.youtube.com/watch?v=YL4-oADTy_c https://www.youtube.com/watch?v=8IhKCgyasZo
- ออกกำลังกาย Yoga-โยคะ หรือ Mindfulness Yoga-โยคะคู่กับเจริญสติ
- ออกกำลังกาย
ไทเก๊ก ชี่กง รำมวย แบบจีน ในสวนสาธารณะ
- ฝึกพัฒนา หลัก หา เหตุ(อดีต) ให้เป็น
และ เล็งถึง ผล(อนาคต) ได้
- ฝึก คิด
พูด ทำ สิ่งใหม่ๆ ไม่ทำซ้ำแบบเดิมๆ ลองทำสิ่งใหม่ ที่ต้องใช้ความคิด
ไม่ใช่ความเคยชิน
- รู้จัก
หน้าที่ของเรา ว่ามีอะไร จดบันทึกลงในสมุด และไปทำตามหน้าที่
- การฟัง - คลิปเสียงสั่งจิตใต้สำนึกบำบัดอาการซึมเศร้า ชมรมจิตวิทยาสมาธิ ในยูทูป www.medihealing.com https://www.youtube.com/watch?v=IsmcCVuLXOI
- ออกกำลังกาย ด้วยการฝึก ลมหายใจ (พลังลมปราณบำบัดโรค) https://www.youtube.com/watch?v=FGcQHbC9fVs&t=1110s
- ฟังเพลงบรรเลงต่างๆ บรรเลงพิณ เพลงคลาสสิค และบรรเลงโดยเครื่องดนตรีอื่นๆ เพื่อสมาธิ ผ่อนคลาย ปรับสมอง https://www.youtube.com/watch?v=USYnsFD2f3Y https://www.youtube.com/watch?v=NdHP-w0F6fY
- ฟัง
เสียง สวดมนต์ ธรรมะ แบบไทย และ อินเดีย https://www.youtube.com/watch?v=v1xxXz1T5PI&list=RDv1xxXz1T5PI หรือฟังก่อนนอน https://www.youtube.com/watch?v=5hkdXmGLOII&list=RDv1xxXz1T5PI&index=16
- ศึกษา เรื่องราวของ ผู้คนที่สามารถ เอาชนะ และลดอาการโรคซึมเศร้า หรือ โรคทางใจอื่นๆ จนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และประสบความสำเร็จมีมากมาย เพื่อเป็นแรงจูงใจ สร้างพลังการเปลี่ยนนิสัย และเอาชนะความทุกข์ - ที่ทำไม่ได้ผล เพราะไม่ได้ทำ ไม่สู้ ยอมแพ้ ไม่ทำต่อเนื่อง แต่ถ้าฝึกมาก ย่อมได้ผลมาก ฝึกน้อย ก็ได้น้อย เช่นกัน
- มีกิจกรรมที่มีความสุข ร่วมกับ ครอบครัว / ตนเอง / สังคม
- ร้องเพลง
คาราโอเกะ สังสรรค์กับเพื่อน ครอบครัว เป็นบางครั้ง
- การออกกำลังกายด้วยการ
เต้นลีลาศ - Dance Ballroom
- สร้างคุณค่าและเห็นความสำคัญในตนเอง
เพื่อทำประโยชน์ต่อผู้อื่น
- ทำกิจกรรมช่วยเหลือครอบครัว
ที่ทำงาน และสังคม
- สร้างความหวังและจินตนาภาพที่เหมาะสม ให้กับตนเอง
- ไปเที่ยว ทะเล ภูเขา ห้างสรรพสินค้า ทานข่าวร่วมกัน เที่ยวต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศ
- อ่านหนังสือ เพื่อทำสมาธิ ให้จดจ่อกับเนื้อหา ทำให้ลืมคิดลบ และสร้างสมองให้ฉลาดเชิงบวกได้ดี
- ดูรายการทีวี
สารคดี ที่ดีมีประโยชน์ ทำให้มีความสุข
- หัวเราะ กับ การสนทนา อ่านหนังสือ หรือ รายการทีวี
- ยิ้ม และ ชมเชย ให้กับตนเอง
และผู้อื่น บ่อยๆ
- ฝึกพัฒนาภาษาไทย
ด้วย การอ่านหนังสือ แล้วออกเสียงตาม
- ฝึกพัฒนาภาษาไทย
ด้วย การฟังรายการทีวี แล้วออกเสียงพูดตาม
- ฝึกการฟัง
การตั้งคำถาม และการเล่าเรื่อง (ด้วยการนึกภาพ จินตนาการภาพ
แล้วเล่าตามที่คิด)
- ฝึกนับเลข
เดินหน้า และ ถอยหลัง
- ฝึกพัฒนา
การคำนวณ เลข เพื่อกระตุ้นสมอง
- กินอาหาร
และ ดื่มน้ำ ที่มีประโยชน์ ให้ถูกต้องตามหลัก
- ฝึกเล่น เกมส์ จากในหนังสือ เกมส์พัฒนาสมอง เพิ่มไอคิว เชาว์ไหวพริบ ปัญญา และ เกมส์ ใน โทรศัพท์มือถือ (ในเวลาที่จำกัด ครั้งละ 15 นาที - ถ้าเล่นนานจะติดเป็นผลเสีย)
- เรียนรู้
เข้าใจ เรื่อง ความสุข 3 ประเภท ในพุทธศาสนา (กามสุข สมาธิสุข และ นิพพานสุข)
- การสนทนากลุ่มจากคนซึมเศร้า
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น - Group
Discussion for Depression Therapy
- หาและเข้ากลุ่ม
กัลยาณมิตร หรือ หาที่ปรึกษาแนะนำช่วยแก้ปัญหาให้ได้
- ไปเข้าอบรม
เข้าคอร์ส เรียนรู้ หลักวิชาการ ต่างๆ เพื่อทำชีวิตให้สนุกในการเข้าร่วมสังคม
- ฝึกสติ
เพื่อช่วยให้หลับเร็วและง่าย ถ้านอนหลับยาก
รีบหาวิธีแก้ไข
- ฝึกการนอนให้พอประมาณ
8 ชั่วโมง ถ้าเมื่อไหร่นอนไม่หลับ
รีบหาวิธีแก้ไข
- ศึกษากรณีตัวอย่าง คนเป็นซึมเศร้า แล้วเอาชนะได้ด้วยตนเอง ใน อินเตอร์เนท - Youtube VDO
- ทานอาหาร ที่มี TRYPTOPHAN เพื่อไปสร้าง SEROTONIN / DOPAMINE / ENDORPHINE / OXYTOCIN สารสุขมีประโยชน์ให้กับสมอง
เช่น ผักขม ผักใบเขียวเข้ม ไข่ไก่ สาหร่ายสไปรูลิน่า ปลาแซลมอน ปลาธรรมชาติ เนยชีส
โยเกิร์ต เนื้อแดง ไก่ งา เต้าหู้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ธัญพืช เมล็ดทานตะวัน
ข้าวโอ๊ต น้ำผึ้งแท้ น้ำมันมะพร้าว ข้าวกล้องน้ำตาล/แดง/ดำ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วขาว
ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว มันฝรั่ง เผือก ฟักทอง กล้วย อโวคาโด ลูกเบอร์รี่
เห็ดหอม หอมแดง หอมใหญ่ มะเขือเทศ ส้ม มะนาว แอปเปิ้ล ฝรั่ง สับปะรด มะละกอ
แตงโม กีวี มะม่วง กระเทียม ช็อคโกแลต ดื่มชาคาโมไมล์ ***ดื่มชาเขียวแท้ หอยนางรม
ผักบล๊อกคอลี่ หนอไม้ฝรั่ง ดื่มนมวัวอุ่น หรือนมถั่วเหลืองอุ่นก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงอาหาร
เช่น ข้าวขาว ซาลาเปา เส้นสีขาว ผงชูรส น้ำตาล น้ำตาลเทียม เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์
ของมึนเมา สารเสพติด บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน (กาแฟ ชาเย็น น้ำอัลลม) อาหารจานด่วน FAST
FOOD เค๊ก โดนัท อาหารกระป๋อง ไส้กรอก อาหารแปรรูป
อาหารหวานและเค็มจัด
- ทานสมุนไพรอัดเม็ด
ราคาถูก เช่น ใบบัวบกอัดเม็ด คู่กับ ขมิ้นชันอัดเม็ด ก่อนนอน และ ตอนเช้า อย่างละเม็ดจนหมดกระปุก แล้วหยุดทานระยะหนึ่ง ตามคำแนะนำ (ตามสูตรของ รพ.อภัยภูเบศร์)
จัดทำและรวบรวมโดย อณิวัชร์ เพชรนรรัตน์ - ผู้สอนสติพัฒนาโรคทางใจ ตั้งแต่ ต.ค. ๒๕๕๖ เป็นต้นมา
***ศึกษาอ่านเพิ่มเติมด้วยตนเอง ตามแหล่งความรู้ต่างๆ เช่น จากอินเตอร์เนท ห้องสมุด ฟัง/ดูรายการมีสาระ และอ่านหนังสือ
**** ทุกวิธีจะเกิดผลได้ ด้วยการฝึกปฏิบัติทุกวันๆ ละหลายครั้ง ต่อเนื่อง 9 สัปดาห์ ในช่วงแรก และฝึกต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ความคิดลบน้อยลงจน ความทุกข์น้อยลง ความสุขเกิดขึ้น ทำงานทำหน้าที่ได้ และนอนหลับได้ปกติ
--------------
การสอนประกอบด้วย
-หลัก16 ขั้นตอน ช่วยพัฒนานิสัย และ
กิเลส ด้วยการฝึกเจริญสติ และปัญญา
(สำหรับโรคซึมเศร้า
โรคย้ำคิดย้ำทำ โรควิตกกังวล โรคตื่นตระหนก โรคกลัว โรคเครียด โรคทางใจอื่นๆ )
-16 Steps to Habit Changing by Vipassana
Mindfulness Meditation and Wisdom Development
For Depression Disorder / OCD / Panic Disorder / Bipolar / Anxiety / Stress / Sleep Disorder and etc.
--------------
1. Search / Reflect - เริ่มค้นหา
สะท้อน (นิสัย)
1.1 คิดลบ
1.2 อารมณ์ลบ
1.3 พฤติกรรมลบ
ทางพุทธศาสนาคือ การค้นหา กิเลส ในตัวเอง
1) มโนกรรม(ความคิด กิเลส 3-โมหะ โลภะ โทสะ / เวทนา)
2) วจีกรรม(คำพูด)
3) กายกรรม(พฤติกรรม)
2. Analysis – Cause Effect - มองเห็น
ผล ในอนาคตที่จะตามมา และ เหตุ ของปัญหา
3. Note Down - เขียนบันทึกในสมุด
เพื่อเห็นปัญหาชัด มีเป้าหมายและกลับมาทบทวน
4. Accept as a problem - ยอมรับด้วยใจว่ามีปัญหา
ใน ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม
5. Goal - ตั้งเป้าหมายในอนาคต
มีเจตนามุ่งมั่น และเล็งถึงผลที่จะได้รับ
6. Need to change - บอกตนว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน
โดยเริ่มแต่วินาทีนี้ วันนี้
7. Learn and Practice - ค้นหาความรู้
ได้รับการสอน ด้านทฤษฎีหลักการ ให้
เข้าใจง่ายเหมาะแก่บุคคล และ ปฏิบัติ ด้วย
การเจริญสติ ที่มุ่งเน้น คนฝึกเป็นศูนย์กลาง - People Center (ไม่ใช่ รูปแบบเป็นศูนย์กลาง -
Pattern Center)
8. Consistency / Intension - ตั้งใจทำ
ด้วยความเพียร สม่ำเสมอ ทุกวัน ๆ ละ หลายรอบ
9. Keep Doing / Never Give Up - เมื่อขี้เกียจ
ลืมทำ มีงานยุ่ง ก็ยังหาเวลาฝึกประจำ ไม่ล้มเลิก
พร้อมกับจดบันทึกการฝึกในรายงานประจำวัน
10. Take Time / Patience - ฝึกเจริญสติไปเรื่อยๆ
จะค่อยเปลี่ยน ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม
11. Evaluation – รายงานผลเป็นประจำ
กับ อาจารย์ผู้ให้คำแนะนำสอน
12. Reward – เมื่อปรับเปลี่ยนนิสัยตนได้บางอย่าง
ให้ชมเชย ในความสำเร็จ ทีละเรื่อง
13. Develop and Correct – เมื่อเกิดปัญหาให้จดรายงาน
ประจำวัน ส่งอาจารย์ เพื่อเรียนรู้ต่อไป
14. Continue Practice Development – กลับไปฝึกเจริญสติ คู่ กับปัญญาความรู้ ทุกวัน
15. Success / Happiness / Habit Changed – ความสำเร็จ ความสุข การเปลี่ยนนิสัยจะเกิดขึ้น และ ความคิด อารมณ์ลบ
พฤติกรรมลบ จะค่อยจางหายไป คล้ายๆ กับ ลืมนิสัยนั้นไปเลย
16. Life Learning and Practicing – นิสัยลบอาจกลับมาได้อีกหรือมีนิสัยที่ไม่ดีหลงเหลืออยู่
จึงควรฝึกไปเรื่อยๆ จนเป็นนิสัยตลอดชีวิต ยิ่งทำมาก ยิ่งดีกับการดำรงชีวิต
เพราะการเจริญสติช่วย พัฒนานิสัย กระตุ้นสร้างสมองฝ่ายดี ควบคุมอารมณ์
สร้างความสุขภายใน รู้จักเหตุและผล พัฒนาการทำงาน รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้ทันคิดลบ
คิดบวกเป็น การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง มีความรับผิดชอบ มีการวางแผนในอนาคต
สร้างความเมตตากรุณา มีจิตอาสาเป็นผู้ให้ในการช่วยเหลือสังคม อยู่คนเดียวได้
ไม่กลัวเหงา และไม่กลัวความตาย
*****เรียบเรียงสอน เฉพาะบุคคล
และสอนทางไกล โดย อณิวัชร์ เพชรนรรัตน์
ผู้ก่อตั้ง/สอนเพื่อช่วยเหลือสังคม -
ชมรมศูนย์เจริญสติ-วิปัสสนา วัดลาดพร้าว กทม.
โทร 097 984 9355 Line ID: aniwat5593
email: anipetch@gmail.com
facebook : vipassana meditation thailand
-----------------------------
ตัวอย่าง ผู้เข้ารับการฝึก เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561
ขอสนับสนุนเผยแผ่วิธีการสอนเป็นวิทยาทาน เพื่อช่วยเหลือสังคม
และร่วมสนับสนุน ทุกวัด ร่วมสร้างบุคลากร และกิจกรรมเจริญสติ ในชุมชนของท่าน
*****การเจริญ อานาปานสติ และ สติปัฏฐาน
คู่กับ การสอนหลัก อริจสัจ ๔ / หลักจิตวิทยา / คิดบวก และหลักเหตุ/ผล ในการบรรเทา
โรค แพนิค Panic Disorder, วิตกกังวล Anxiety และ ซึมเศร้า Depression
ผู้เข้ารับการฝึกสติ
-แม่บ้านหญิง เคยรับราชการ อายุ 64 มีสามี และลูกสาว 2 คน
ขั้นตอนการสอนเพื่อช่วยเหลือ โรคแพนิค วิตกกังวล ซึมเศร้า
1. ปัญหาที่เกิด
น้อยใจลูก ลูกไม่รัก เพราะลูกกำลังจะแต่งและจะย้ายออกไปอยู่เอง เลยคิดลบมาก เครียด
ตกใจกลัวง่าย นอนไม่หลับ หลับยาก เป็นมาหลายเดือนแล้ว ต้องกินยานอนหลับ
ช่วงหลายเดือนนี้ อยู่ๆ ก็มีอารมณ์เศร้า และร้องไห้ออกมาเอง
วันละประมาณ ๑๐ ครั้งๆ ละ ๑ นาที
ต่อมามีโรคกรดไหลย้อนเพิ่มด้วย
2. เหตุของปัญหา
เคยเป็นแพนิคมา เริ่มตั้งแต่ปี 2546
ช่วงนั้นไม่ค่อยได้นอน ทำงานขายขนม หลังเลิกงาน
เลยเจ็บป่วย นอนไม่หลับ จุกคอ ใจสั่น มือเท้าเย็น วิงเวียน
รู้สึกตัวโคลงเคลง ทำให้มีปัญหากับสามี แต่ต่อมากลับมาคืนดีกันเป็นปกติจนทุกวันนี้
ประวัติทาน ยา Zanax จาก รพ สมิตติเวช มาได้ 10 กว่าปี
แล้วย้ายไปรักษาที่ รพ อาภากรณ์ สัตหีบ หมอจ่ายยา Lexapro ให้ ทานแล้วดีขึ้น
แต่กลับมาเป็นอีก ตอนที่มีเหตุการณ์ทำให้ตกใจมาก
คือในขณะต้มกล้วยไว้ แล้วลืมปิดไฟ ใจวิตกกังวล ตกใจจนใจเต้นมาก เพราะกลัวบ้านไฟไหม้ จึงเป็นเหตุให้เริ่มกลับมามี อาการแพนิค
ตอนนี้ ทานยาแต่ Lexapro 10mg 1 เม็ด ตอนเช้า
ทานยามา สิบกว่าปีแล้ว
3. เป้าหมาย
เพื่อบรรเทาช่วยเหลือ อาการร้องไห้ ตกใจง่าย คิดฟุ้งซ่าน
เพื่อบรรเทาความทุกข์
เพื่อสร้าง สติ และ ปัญญาความรู้เชิงบวก
เพื่อความสุขในตน และ ครอบครัว
เพื่อลดยาลง จนกระทั่งหยุดยาได้ จาก ความเห็นของแพทย์
4. วิธีการฝึก
-เตรียม สมุด จนบันทึก การสอน หลักการ คิดบวก การสนทนา สิ่งที่ได้เรียนรู้ และเหตุการณ์ระหว่างวัน
-สอนเรื่อง ความคิดลบ อารมณ์ลบ ความรู้สึกทางร่างกาย/ใจ และพฤติกรรม
-สอนให้ฝึกกระตุ้นสมอง คิดบวก ในเรื่องลูก และความคิด อารมณ์ตนเอง
-สอน วิธีการเจริญสติ ด้วย อานาปานสติ คู่ กับ สติปัฏฐาน
ในการรับรู้ต่างๆ โดยเฉพาะฝึกให้รู้ทัน ความคิด และ อารมณ์
เมื่อรู้ทันแล้ว เพียงรู้เฉย ปล่อยวาง จากนั้นย้ายไปรับรู้อารมณ์อื่นๆ แทน หรือ ย้ายไปทำกิจกรรม ภารกิจ หน้าที่ อื่น เพื่อไม่ให้จมไปกับ อารมณ์
*****การเจริญสติ ฝึกทำใน 4 อิริยาบถ ดังนี้
1) นั่งสติ - เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ครั้งละ 15 นาที หรือทำเพิ่มได้เมื่อมีเวลาว่าง
2) เดินสติ - ทำครั้งละ 15 นาที ร่วมกับนั่งสติ
3) สติในระหว่างวัน - ฝึกทำเองทุกวัน แล้วรายงานการฝึกช่วงเย็น
4) นอนสติ – เพื่อให้มีสติ ปล่อยวางความคิด ทำให้หลับเร็ว
ช่วงค่ำให้บันทึกการฝึกลงในตารางการฝึกทุกวัน และเล่าเหตุการณ์ประจำวันด้วย โดยส่งกลับทางไลน์ อาทิตย์ละหน
-สอนให้เพิ่ม การดื่มน้ำเปล่าทุกชั่วโมงให้ได้วันละ
อย่างน้อย 2 ลิตร
-สอนให้ ฝึกการแกว่งแขน 200 - 500 ครั้ง หลังดื่มน้ำ ก่อน เจริญสติ เพื่อให้เลือดหมุนเวียน
เพิ่มคุณภาพเลือดไปเลี้ยงสมอง
-สอนให้ทานอาหารสุขภาพ ข้าวกล้อง ผัก ธัญพืช
ในช่วงค่ำ ให้ลดปริมาณอาหาร ระวังน้ำตาล
เพื่อช่วยโรคกรดไหลย้อน
-ให้ทานสมุนไพร ขมิ้นชัน คู่ ใบบัวบก อัดเม็ด อย่างละ 1 เม็ด ช่วงค่ำ และ หลังอาหารเช้า และหยุดทานเป็นระยะ
เพื่อบำรุงเลือด และสมอง ด้วยสมุนไพรธรรมชาติ
-ให้ทานผลไม้สลับกัน ทุกวัน ช่วงท้องว่าง ไม่ทานหลังอาหาร
5. ผลที่ได้รับ
เริ่มฝึกตั้งแต่ วันที่ 17 เมษายน 2561
เมื่อผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ ในวันที่ 30 เมษายน
ได้ฝึกเจริญสติ ประจำทุกวัน เข้าใจที่สอน
ทันความคิด อารมณ์มากขึ้น
ตอนนี้ไม่ร้องไห้เลย เข้าใจลูก คิดบวกได้ เฉยได้แล้ว
ความทุกข์หายไปราว 80-90%
แต่วันนี้ไป รพ. รู้สึกเหนื่อย คนมาก เลยมีใจเต้นแรง แต่คิดบวกได้ทันใน รพ. ที่มีคนมาก
ฝึกทำได้ดี และคิดบวกมากขึ้น ตอนนี้มีความสุขสงบ รู้เฉย ปล่อยวางได้มาก
ส่วนอาการ กรดไหลย้อน ตอนนี้ ดีขึ้นมากแล้ว เริ่มหยุดยา แต่ยังมีแน่นๆ นิดหน่อย
-สอนให้ฝึกต่อเนื่องไปตลอด เพราะอาจกลับมาเป็นได้อีกในอนาคต เมื่อมีสิ่งกระตุ้น
-ให้ฝึกต่อเนื่องไปอีก 3 เดือน เมื่อครบแล้ว ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอลดยา
กรณีตัวอย่างนี้ - สิ่งที่ทำให้อาการบรรเทาอย่างรวดเร็ว
เพราะมีระเบียบวินัย มุ่งมั่น ตั้งใจฝึกเจริญสติปฏิบัติเองที่บ้าน มีศรัทธา เข้าใจในหลักการ ทำการบ้าน
และโทรทางไกล ส่งรายงานผลเป็นประจำ ทางไลน์
นอกจากกรณีนี้แล้ว การเจริญสติ ได้ช่วยเหลือ
โรคซึมเศร้า / วิตกกังวล / เครียด / นอนหลับยาก / ย้ำคิดย้ำทำ มาแล้วอย่างได้ผลดี
ถ้าผู้ฝึก ได้ปฏิบัติตามเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 3 เดือนช่วงแรก และประเมินผลต่อเนื่องอีก 1 ปี
*****ทุกท่านที่เคยฝึกจนมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ยังต้องฝึกเจริญสติต่อเนื่องไปตลอด
ถ้าหยุดปฏิบัติเพราะคิดว่าดีขึ้นมากแล้ว ในอนาคตท่านมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นอีกได้
การเจริญสติ คือ การป้องกันมิให้กลับมาเป็นซ้ำในระยะยาว อย่างได้ผล
ตามหลักสูตรเจริญสติสากล เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
(MINDFULNESS-BASED RELAPSE PREVENTION - MBRP 2010)
---------------------------------------
ผู้เข้าการฝึกที่ผ่านมาแล้ว
โรคซึมเศร้า Depression Disorder
โรคย้ำคิดย้ำทำ OCD Obsessive Compulsive Disorder
โรคย้ำคิดย้ำทำ OCD Obsessive Compulsive Disorder
โรคซึมเศร้า Depression Disorder
โรคซึมเศร้า Depression Disorder
โรคย้ำคิดย้ำทำ OCD Obsessive Compulsive Disorder
โรคซึมเศร้า Depression และโรคสมองเสื่อม Dementia
โรคซึมเศร้า Depression Disorder
โรคซึมเศร้า Depression Disorder
โรคตื่นตระหนก วิตกกังวล PANIC DISORDER
โรคตื่นตระหนก วิตกกังวล PANIC DISORDER
-------------------
ตัวอย่าง การสอนการเจริญสติ บรรเทา โรคแพนิค (PANIC & ANXIETY DISORDER)
โรคทางใจต่างๆ สามารถเบาเทาและช่วยรักษาได้ด้วยการฝึกอบรมจิตโดย:
การฝึกเจริญสติอย่างต่อเนื่อง โดยใช้จิตเข้าไปปรับเปลี่ยนจิต เป็นการบำบัดทางเลือก ที่นิยมมากในต่างประเทศ โดยไม่ได้ใช้ยารักษา เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 เดือนในช่วงแรก
เชิญฟังบรรยาย สนทนากลุ่ม แลกเปลี่ยน/ออกความคิดเห็น พร้อมกับ ฝึกปฏิบัติการเจริญสติ ทุกวันเสาร์/อาทิตย์ โดยสอนแยกรายบุคคล เพื่อนำไปปฏิบัติต่อด้วยตนเองทุกวันที่ บ้าน/ทำงาน
"การเจริญสติพัฒนาโรคทางใจ
MINDFULNESS and KNOWLEDGE DEVELOPMENT FOR MENTAL DISORDER AND SUFFERING"
สอนฟรี เป็นวิทยาทาน แก่ทุกศาสนา ทั้งภาษาไทย และ อังกฤษ
ณ ชั้น 2 อาคารปฏิบัติธรรม วัดลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 41 กทม
***ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 15.30 ถึง 19.30 น. (หยุดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ของทุกต้นเดือน)
***ในช่วงโควิดระบาด
ตั้งแต่ ปี 2564 ทางชมรม จะเปิดสอนทางโทรศัพท์ หรือ ทางไลน์ เท่านั้น
ในช่วงบ่าย วันจันทร์ ถึง ศุกร์ แทน กิจกรรม ที่ วัดลาดพร้าว ครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมมาด้วย (เสื้อขาว / กางเกงหลวมเข้ม / ถุงเท้าดำ 1 คู่ / น้ำ 1 ขวด / สมุดใหญ่เพื่อจด และเล็กพกติดตัว อย่างละ 1 เล่ม)
โดย อ. อณิวัชร์ เพชรนรรัตน์ โทร 097 984 9355
***กรุณาโทรนัดล่วงหน้า